รูปแบบการสร้างโอกาสเพื่อธุรกิจใหม่ (Emerging Business Opportunities Model)

 

แม้ว่าการวิเคราะห์กลุ่มธุรกิจโดยการใช้เมตริกซ์การเติบโต และส่วนแบ่งแบบ Boston Consulting Group (BCG) จะเป็นที่นิยมในวงกว้าง แต่ BCG เมตริกซ์ถูกวิจารณ์โดยนักวิชาการหลายคน ว่ามุ่งเน้นถึงการวิเคราะห์เกี่ยวกับเงินสด (Cash Focused) มากเกินไป ซึ่งบริษัทที่มุ่งเน้นเรื่องการทำกำไร โดยการหาเงินให้มากที่สุด อาจจะประสบปัญหาในเรื่องการถูกรบกวนหรือทำลาย (Disruption) จากบริษัทคู่แข่งในอนาคต และอาจส่งผลต่อความยั่งยืน (Sustainability) ของบริษัท

 

ดังนั้น O’Reilly III, Harreld และ Tushman (2009) จึงได้นำเสนองานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร California Management Review เรื่อง Organizational Ambidexterity : IBM and Emerging Business Opportunity โดยนำเสนอรูปแบบการสร้างโอกาสเพื่อธุรกิจใหม่ หรือ Emerging Business Opportunities (EBO Model) (ดังแสดงในรูปประกอบ) ซึ่งเป็นรูปแบบ (Model) ที่แนะนำถึงการจัดกลุ่มธุรกิจให้มีความหลากหลาย และมุ่งเน้นถึงการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน

 

ที่มา : O’Reilly, A.C., Harreld, B.J. and Tushman, L.M. (2009)

 

ทั้งนี้ O’Reilly III, Harreld และ Tushman ระบุว่า บริษัทที่ต้องการประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ควรมีธุรกิจอยู่ใน 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1. กลุ่มธุรกิจที่มีการเจริญเติบโตเต็มที่ (Mature Businesses) ถือเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยสร้างเงินให้กับบริษัท และเปรียบเสมือนเป็นวัวเงิน (Cash Cow) โดยเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ต้องการเงินลงทุนสูงเพื่อการพัฒนา

 

2. กลุ่มธุรกิจที่กำลังเจริญเติบโต (Growth Businesses) เป็นกลุ่มที่ต้องการเงินลงทุนสูงเพื่อสร้างการเจริญเติบโต และบริษัทมักคาดหวังว่า จะกลายเป็นกลุ่มหลักที่ช่วยสร้างเงินให้กับองค์การในอนาคต

 

3. กลุ่มธุรกิจในอนาคต (Future Businesses) เป็นกลุ่มธุรกิจที่บริษัทให้ความสนใจในการพัฒนาสินค้า บริการ รวมถึงรูปแบบในการทำธุรกิจที่มีความใหม่ ทันสมัย และคาดว่าจะประสบความสำเร็จในอนาคต กลุ่มธุรกิจในอนาคต ถือเป็นกลุ่มที่มีความจำเป็น และจะต้องได้รับการสนับสนุนอย่างจริงจัง เนื่องจากจะเป็นกลุ่มที่สามารถพัฒนาไปเป็นกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทในอนาคต ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างผลกำไรให้กับบริษัทแล้ว ยังช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปในอุตสาหกรรมได้อย่างยั่งยืน

Read more